เปิดบัญชีเทรดเพิ่มผลกำไร

ฟอเร็กซ์คืออะไร

Share:

ฟอเร็กซ์/ไบนารีออฟชั่น

เข้าร่วมกับตลาดซื้อขายเงินตราที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเริ่มต้นสร้างรายได้ด้วยการซื้อขายกับผู้อื่นที่อยู่ในตลาด

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเทรดฟอร์เร็กซ์

ฟอร์เร็กซ์คืออะไร
Foreign Exchange Market หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ FOREX, Forex, Retail Forex, FX, Spot FX หรือ Spot binary option ก็เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันที่มากกว่า 4 ล้าน ๆ เหรียญ ต่อวัน  ถ้าคุณเปรียบเทียบตลาดหุ้น นิวยอร์คที่มีปริมาณการเทรดต่อวัน ที่มากมายถึง 25 พันล้านเหรียญต่อวัน คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดฟอร์เร็กซ์ นั้นใหญ่ขนาดไหน  ซึ่งตลาดมีขนาดใหญ่กว่า ตลาดฟิวเจอร์ และตลาดหุ้น สหรัฐฯ รวมกันถึง สามเท่า ฟอร์เร็กซ์สุดยอด!!
พวกเค้าเทรดอะไรกันในตลาดฟอร์เร็กซ์คำตอบง่าย ๆ ของคำถามนี้คือ เงิน  การเทรดฟอร์เร็ก คือการซื้อขายค่าเงินโดยถ้าเรา ซื้อค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง เราก็จะขายค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง ซึ่งค่าเงินถูกเทรดผ่านโบรกเกอร์ หรือว่า ดีลเลอร์นั่นเอง แต่ละครั้งจะเทรดเป็นคู่ ตัวอย่างเช่น ค่าเงินยูโร และ ค่าเงินดอลล่าร์ (EUR/USD) หรือ ค่าเงินปอนด์ และ ค่าเงินเยน(GBP/JPY)เพราะว่า คุณไม่ได้ซื้ออะไรที่เป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ การเทรดสิ่งเหล่านี้ จึงค่อนข้างทำให้สับสน คุณลองคิดถึงคุณกำลังซื้อหุ้น โดยที่บริษัทที่คุณซื้อหุ้นของเขานั่นก็คือ ประเทศที่คุณถือค่าเงินนั่นเอง  สมมุติว่า คุณซื้อเงินเยน คุณก็กำลังลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอยู่  ซึ่งราคาของค่าเงินนั้นก็สะท้อนภาวะของตลาดที่ผู้คนในตลาดคิดว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเป็นยังไง ในปัจจุบันและ อนาคตโดยทั่วไป  ค่าเงินค่าเงินหนึ่งต่ออีกค่าเงินหนึ่ง จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ที่เปรียบเทียบกับอีกประเทศหนึ่งอยู่ซึ่งจะแตกต่างกับตลาดทุนอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ค  ตลาดฟอร์เร็กซ์ไม่มีที่ตั้ง หรือว่าไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน ตลาดฟอร์เร็กนั้นท าการซื้อขายผ่านระบบ OTC (Over the Counter)หรือว่า เรียกว่า Interbank market นั่นเอง เนื่องจากว่าตลาดทั้งหมดนั้น ทำการซื้อขายในระบบ electronic ด้วยระบบเครือข่ายของธนาคาร ซึ่งสามารถทำการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงปลายปี 1990 มีแต่รายใหญ่ ๆ เท่านั้นที่เทรดในตลาดนี้ ซึ่งเงินที่คุณต้องมีในการเทรดตลาดนี้ในตอนนั้นคือ 10 ถึง 50 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธนาคารหรือว่า สถาบันการเงินขนาดใหญ่ไม่ใช่รายย่อย ๆ อย่างปัจจุบัน  อย่างไรก็ตาม เพราะว่า พัฒนาการที่รวดเร็วของอินเตอร์เนท บริษัทที่เทรดฟอร์เร็กซ์สามารถที่จะให้เราเปิดบัญชีที่ใช้ในการเทรดให้กับรายย่อยอย่างเรา ๆ ในตอนนี้สิ่งที่คุณควรจะมีในการเทรด คือ คอมพิวเตอร์ซักเครื่อง แล้วก็อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ข้อมูลซึ่งมีอยู่ในเว็บไซต์นี้แล้ว BabyPips.com
ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้คำแนะนำสำหรับนักเทรดที่ยังไม่รู้จักตลาดฟอร์เร็กเลยหรือนักเทรดมือใหม่ ให้เข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในตลาด forexนี้ ในแบบที่สนุกและง่ายต่อการท าความเข้าใจตลาด
Spot อะไรคือ ? Spot คือตลาดใดก็ตามที่ทำการซื้อขายในราคานั้น  ๆ ในปัจจุบัน ตามเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทแล้วค่าเงินไหนที่เทรดอยู่ในตลาดฟอร์เร็กซ์?

ค่าเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดได้แสดงตามสัญลักษณ์ ตามตารางข้างล่างนี้

สัญลักษณ์                  ประเทศ                 ค่าเงิน           ชื่อเล่นของค่าเงิน
USD         สหรัฐฯ                 ดอลล่าร์              Buck
EUR         สหภาพยุโรป           ยูโร                  Fiber
JPY         ญี่ปุ่น                     เยน                  Yen
GBP         สหราชอาณาจักร     ปอนด์               Cable
CHF         สวิสเซอร์แลนด์       ฟรังค์                Swissy
CAD         แคนาดา                ดอลล่าร์              Loonie
AUD         ออสเตรเลีย            ดอลล่าร์              Aussie
NZD         นิวซีแลนด์             ดอลล่าร์              Kiwi

สัญลักษณ์ของค่าเงินในตลาดฟอร์เร็กซ์จะต้องเป็นสามตัวอักษรเสมอ ซึ่งพยัญชนะสองตัวแรกหมายถึงชื่อของประเทศ และตัวสุดท้ายนั้นบ่งบอกถึงชื่อของค่าเงินของประเทศนั้น ๆ


เมื่อไหร่ที่ค่าเงินจะถูกเทรด

ตลาดฟอร์เร็กซ์ มีเอกลักษณ์ของตัวมันเอง เหมือนกับซูเปอร์มาเก็ต วอลมาร์ทในสหรัฐฯซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกคุณก็สามารถเทรดได้ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ยังคงเทรดค่าเงินอยู่ทั่วโลกทั้งวันทั้งคืนและหยุดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ตลาดค่าเงินหมุนตามดวงอาทิตย์รอบโลก  ดังนั้นคุณสามารถเทรดได้แม้กระทั่งตอนกลางคืน(ถ้าคุณเป็นแดรคคูล่า) หรือว่าตอนเช้า (ถ้าคุณเป็นนกที่ตื่นเช้าหน่อย) แต่จ าไว้ว่า  นกที่ขยันตื่นเช้าไม่จ าเป็นว่าจะมีหนอนกินในตลาดแห่งนี้ คุณอาจจะได้หนอนก็จริงอยู่ แต่ว่านกตัวใหญ่ที่ร้ายกาจกว่าคุณก็อาจจะจ้องเขมือบคุณอยู่เหมือนกัน

ตัวอย่าง เวลาของตลาดฟอร์เร็กซ์

Time Zone       New York      GMT
ตลาดโตเกียวเปิด                        19:00                         0:00
ตลาดโตเกียวปิด                         4:00                           9:00
ตลาดลอนดอนเปิด                      3:00                           8:00
ตลาดลอนดอนปิด                      12:00                         17:00
ตลาดนิวยอร์คเปิด                      8:00                           13:00
ตลาดนิวยอร์คปิด                       17:00                         22:00


ตลาดฟอร์เร็ก(OTC)

ตลาดฟอร์เร็ก เป็นตลาดที่ใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดทุนทั้งหมดด้วยกันในโลกนี้ ซึ่งมี
ปริมาณการเทรดมากที่สุดไม่ว่าจะมาเหล่าบัญชีเทรดส่วนตัวหรือองค์กร ซึ่งตลาดนี้ใช้ระบบ OTC ซึ่งเทรดเดอร์แต่ละคนจะตัดสินใจในการเทรดว่าจะเทรดกับใครตามเงื่อนไขของ ความดึงดูดใจที่มีต่อราคา และ ความเป็นที่นิยมของค่าเงิน
ชาร์ทข้างล่างแสดงการเทรดถึงอัตราส่วนการเทรดของค่าเงินต่าง ๆ ซึ่งค่าเงิน Dollarเป็นค่าเงินที่มีการเทรดมากที่สุด ถึง 86 % ของตลาด  รองลงมาคือ เงิน EURO 37% และอันดับสามได้แก่เงินเยน 16.5 %




ทำไมพวกเขาถึงเทรดค่าเงิน?

การเทรดฟอร์เร็กมีข้อดีหลายอย่าง ข้างล่างนี้เป็นเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตอบคำถามว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเทรดฟอร์เร็กซ์กัน?ไม่มี commission (ค่านายหน้า) ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนค่าเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมที่เก็บจากภาครัฐ ไม่มีค่าธรรมเนียมที่คิดโดยโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์เหล่านั้นจะได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา ที่เรียกว่า Bid กับ Ask หรือเรียกอีกอย่างว่า Spread นั่นเอง ?ไม่มีคนกลางการเทรด Spot ค่าเงินนั้นจะไม่มีการผ่านคนกลาง ซึ่งทำให้คุณสามารถเทรดโดยตรงกับตลาดตามราคาจริงของค่าเงินนั้น ๆ ?ไม่มีการกำหนด Lot หรือ Size ในตลาดฟิวเจอร์ lot หรือว่า Size ของสัญญาการซื้อขายขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนของตัวเครื่องมือนั้น ๆ  เช่น size มาตรฐานของสัญญาฟิวเจอร์เงิน  คือ 5000 ออนซ์ ใน ในตลาดฟอร์เร็ก คุณสามารถส่งคำสั่งได้ตามใจคุณ ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าเทรดในตลาดได้ด้วยเงินเพียง 250 เหรียญ (แม้ว่าเราจะบอกว่าการเทรดด้วยเงิน 250 เหรียญ เลวร้ายยังไง)?ต้นทุนการส่งคำสั่งตำต้นทุนในการส่งคำสั่ง( Bid/Ask หรือ Spread) ซึ่งน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขของตลาด สำหรับโบรกเกอร์ใหญ่ๆ Spread อาจจะน้อยถึง .07 เปอร์เซ็นต์เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ Leverage ที่คุณใช้ ?
ตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเราไม่ต้องรอให้มีคนมาสั่นกระดิ่งเปิดตลาด ตลาดเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ตอนเย็น จนถึง วันศุกร์ตอนกลางวัน (เวลา สหรัฐฯ บ้านเราเริ่ม ตีห้าของวันจันทร์ –ตีสี่ของวันเสาร์) ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้นไม่เคยหลับ ซึ่งเหมาะกับคนที่เทรดเป็นงานเสริม เพราะว่าคุณสามารถเลือกได้ว่าคุณอยากเทรดเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืน? ไม่มีใครสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได้ตลาดเทรดค่าเงินเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีนักเทรดมากมายหลายระดับอยู่ในตลาดซึ่ง ไม่มีใคร(แม้แต่ธนาคารกลาง) ก็ไม่สามารถควบคุมราคาให้เคลื่อนไหวไปตามความต้องการของเขาได้?

Leverage leverage คืออะไร(คาน)ในการเทรดฟอร์เร็กซ์ แม้ว่าเราจะฝากเงินเข้าเพียงน้อยนิด แต่เราก็สามารถถือครองสัญญาที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินในบัญชีของเราได้  Leverage ให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ในขณะที่มีความเสี่ยงของเงินทุนต่ำ  ตัวอย่าง  โบรกเกอร์หนึ่ง อนุญาตให้เราใช้ leverage 1:200 นั่นหมายถึงว่า ถ้าเรามีเงินมาร์จิ้น 50 ดอลล่าร์ แต่ว่าทำให้เทรดเดอร์ ซื้อหรือขาย สัญญามูลค่า 10,000 เหรียญได้เช่นเดียวกัน ถ้าเรามีมาร์จิ้นอยู่ 500 เหรียญ เราก็สามารถเทรดสัญญามูลค่า 100,000 เหรียญ ได้เช่นกัน แต่ว่า Leverage ก็เหมือนดาบสองคม ถ้าเราไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี การใช้ Leverage สูง จะทำให้เราขาดทุนหรือกำไรมหาศาลได้เหมือนกัน? มีสภาพคล่องสูง. เพราะว่าตลาดฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก  ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องสูงเช่นกัน  นั่นหมายถึงว่า ภายใต้สภาวะตลาดปกติเมื่อคุณคลิกเม้าส์ ส่งออร์เดอร์ คุณจะสามารถส่งคำสั่งได้ทันที คุณจะไม่ติดขัดในการเทรด ไม่ว่าคุณจะตั้งให้เปิดออร์เดอร์แบบอัติโนมัติเมื่อถึงราคาที่กำหนด (Limit order) หรือ ให้ปิดออร์เดอร์อัตโนมัติถ้าราคาไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด (Stop loss order)? มี บัญชีเทรด Demo, ข่าว , กราฟ และ บทวิเคราะห์บริการให้โบรคเกอร์ออนไลน์ส่วนใหญ่ จะมีบัญชี demo ให้ใช้ในการฝึกเทรด พร้อมกับบริการข่าว และกราฟ รวมอยู่ในโปรแกรมเทรด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่คุณค่าส าหรับนักเทรดที่ “น่าสงสาร” และ นักเทรดที่ชาญฉลาด ที่อยากจะฝึกปรือฝีมือตัวเองในการเทรดก่อนที่จะเปิดบัญชีเงินจริง และเสี่ยงในเงินจริง ๆ ?

การเทรดบัญชี Mini และ บัญชี Micro  คุณอาจจะคิดว่าการที่จะเป็นนักเทรดค่าเงินขึ้นมาได้นั้นจะต้องใช้เงินมหาศาล แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเรามาเทียบการเทรดค่าเงินกับตลาดหุ้น ออพชั่นหรือว่า ฟิวเจอร์ แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้น  โบรกเกอร์ออนไลน์หลาย ๆ ที่ มีบริการบัญชี Mini กับ บัญชี Microซึ่งบางโบรคเกอร์อนุญาตให้คุณฝากเงินได้ต่ำสุดเพียง 300 เหรียญ หรือต่ำกว่านั้นก็มี  แต่ว่าเราไม่ได้หมายถึงว่า คุณควรจะเปิดบัญชีกับพวกเขาโดยใช้เงินให้น้อยที่สุดนะ  แต่เรากำลังหมายถึงว่า มันทำให้ฟอร์เร็กซ์เข้าถึงคนได้หลายกลุ่ม หลายสาขาอาชีพ ผู้ซึ่งไม่มีเงินมากในการเปิดบัญชีครั้งแรกเราต้องมีเครื่องมืออะไรบ้างในการเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์คอมพิวเตอร์ซักเครื่องพร้อมกับอินเตอร์เนทความเร็วสูงและข้อมูลทั้งหมดในเว็บของเรา แค่นี้ก็เพียงพอ

สำหรับการเริ่มต้นเทรดฟอร์เร็กซ์จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเทรดฟอร์เร็กซ์การเทรดฟอร์เร็กซ์ (บัญชีไมโคร) เราอาจจะเปิดบัญชีด้วยเงินซักไม่กี่ร้อยเหรียญ แต่อย่าพึ่งหัวเราะ –บัญชีไมโครและ บัญชี มินิก็ดีสำหรับคุณแล้วในการเริ่มต้นที่จะลองเอาขาจุ่มลงในน้ำ โดยคุณจะไม่จมน้ำ สำหรับบัญชีไมโคร เราแนะนำว่าให้เปิดอย่างน้อย ที่ 1,000 เหรียญ และ บัญชี มินิ เราแนะนำให้เปิด 10,000 เหรียญ

2. เราจะทำเงินได้จากฟอร์เร็กซ์ได้อย่างไร  ในตลาดคุณจะซื้อหรือขายค่าเงิน การทำการเทรดในตลาดค่าเงินนั้นง่ายมาก  ซึ่งวิธีการเทรดก็เหมือนกับตลาดอื่น ๆ (เช่น ตลาดหุ้น) ดังนั้นถ้าคุณมีประสบการในการเทรดตลาดอื่นมาก่อน คุณก็คงเข้าใจได้ง่ายขึ้นวัตถุประสงค์ของการเทรดฟอร์เร็กซ์เพื่อที่จะทำการแลกเปลี่ยนค่าเงินเพราะคาดหวังว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คาดหวัง ดังนั้น ค่าเงินที่คุณซื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเมื่อคุณขาย

ตัวอย่างของการทำกำไรจากค่าเงิน

สิ่งที่เทรดเดอร์ทำ                                                         EUR                    USD
คุณ Buy EURUSD ที่ราคา 1.18 มูลค่า 10,000 ยูโร         +10,000                -11,800*

สองสัปดาห์ต่อมา คุณแลกเงินยูโรกลับมาเป็น
เงินดอลล่าร์ ที่ราคา 1.2500 .                                          -10,000              +12,500**

คุณได้กำไร $700.                                                            0                   +700



*EUR 10,000 x 1.18 = US $11,800
* EUR 10,000 x 1.25 = US $12,500

อัตราแลกเปลี่ยนเป็นค่าอัตราส่วนของค่าเงินหนึ่งต่อค่าเงินหนึ่ง ตัวอย่างเช่น USD/CHF อัตราส่วนจะบอกได้ว่า จำนวนเงินดอลล่าร์กี่เหรียญ ถึงจะสามารถซื้อได้ 1 สวิสฟรังค์ หรือ สวิสฟรังค์จำนวนเท่าไหร่ที่คุณต้องใช้ในการซื้อเงิน 1 ดอลล่าร์

เราจะอ่าน FX Quote ได้อย่างไร?

ค่าเงินนั้นจะเป็นคู่ ๆ เสมอ  เช่น GBP/USD หรือ USD/JPY เหตุผลที่ค่าเงินถูกกำหนดเป็นคู่ ๆ เพราะว่าในตลาดการเงินทุก ๆ ที่คุณจะท าการซื้อค่าเงินหนึ่ง ด้วยการขายอีกค่าเงินหนึ่ง ตามตัวอย่างเป็นอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินปอนด์อังกฤษกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯGBP/USD = 1.7500
ค่าเงินตัวแรกก่อนเครื่องหมาย / เรียกว่า Base Currency (ในตัวอย่างนี้คือค่าเงินปอนด์) ขณะที่ตัวที่สองทางขวามือเรียกว่า Quote currency(ในตัวอย่างนี้คือค่าเงินดอลล่าร์)เมื่อคุณซื้อ  อัตราแลกเปลี่ยนจะบอกคุณว่าคุณต้องจ่ายเท่าไหร่เป็นจ านวนเงิน Quote currency เพื่อที่จะซื้อ 1 หน่วยของ Base Currency ตามตัวอย่างข้างต้น คุณต้องจ่าย 1.7500 ดอลล่าร์ สหรัฐฯเพื่อจะซื้อเงินปอนด์ 1 ปอนด์เมื่อคุณขาย อัตราแลกเปลี่ยจะบอกคุณว่าคุณต้องได้Quote Currency กี่หน่วยในการขาย 1หน่วยของ base currency ในตัวอย่างข้างต้น คุณจะได้เงิน 1.7500 ดอลล่าร์ เมื่อคุณขายเงินปอนด์ 1 ปอนด์Base currency เป็นเกณฑ์ ในการซื้อขาย

ถ้าคุณซื้อEUR/USDนี่หมายถึงว่าคุณกำลังซื้อ Base Currencyและคุณก็ขาย Quote currencyคุณจะซื้อคู่เงินนี้ถ้าคุณคิดว่าค่าเงินbase currencyจะแพงขึ้นถ้าเปรียบเทียบกับ quote currency
คุณจะขายคู่เงินถ้าคุณคิดว่า ค่าเงิน ที่เป็น base currency จะลงเมื่อเทียบกับ ค่าเงิน ที่เป็น quote currencyLong/Shortอันดับแรก สิ่งที่คุณต้องท าคือคุณต้องตัดสินใจว่าคุณต้องซื้อหรือขาย
ถ้าคุณต้องการซื้อ(ซึ่งหมายความว่าคุณซื้อ base currency และ ขาย quote currency) คุณต้องการให้ค่าเงินที่เป็น base currency มีมูลค่ามากขึ้น คุณ ต้องขายมันที่ราคาสูงกว่าที่คุณซื้อ และส าหรับเทรดเดอร์
เราเรียกว่า Long หรือ long position ซึ่งก็เท่ากับ Buy นั่นเองถ้าคุณต้องการขาย(ซึ่งหมายควาว่าคุณต้องการขาย base currencyและ ซื้อ quote currency)คุณต้องซื้อค่าเงินที่เป็น
base currency คืนในราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งการทำแบบนี้เรียกว่า การ short position หรือ Shortก็คือการ sell นั่นเอง Bid/Ask Spread (Spread คืออะไร) ทุก ๆ คู่เงินมีราคา อยู่สองราคาคือ ราคา bid และ ราคา Ask ราคาBid นั้นจะต่ำกว่าราคา Ask เสมอBid เป็นราคาซึ่งโบรกเกอร์จะซื้อราคา base currencyเพื่อที่จะแลกเปลี่ยน กับค่าเงิน quote currency นั่นหมายถึงว่าคุณ(นักเทรด) จะ sell ได้ Ask เป็นราคาที่ โบรกเกอร์จะขายราคา base currencyเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนกับค่าเงิน quote currencyซึ่งหมายถึง Ask เป็นราคาที่เราจะซื้อได้นั่นเองความแตกต่างระหว่าง Bid กับ Ask เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า Spread.


ลองดูที่ตัวอย่างของราคาที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอโปรแกรมเทรดกัน


นี่คือ คู่เงิน GBP/USD ราคา Bid 1.7445 และราคา ask เท่ากับ 1.7449. นี่เป็นสิ่งที่โบรคเกอร์เหล่านี้มีเพื่ออ านวยความสะด้วยให้คุณถ้าคุณต้องการ sell GBP, คุณก็เพียงแค่คลิ๊ก"Sell" ที่ราคา 1.7445.ถ้าคุณต้องการซื้อ GBP, คุณก็
คลิ๊ก"Buy" และคุณจะได้ราคาที่ 1.7449.ตามตัวอย่างดังกล่าว เราใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน ในการช่วยตัดสินใจว่า จะซื้อหรือขายคู่เงินนั้น ๆตามตัวอย่างนี้ เงินยูโรเป็ น base currency และใช้เป็นเกณฑ์ในการ ซื้อขายด้วยถ้าคุณเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข่าวร้ายส าหรับค่าเงินดอลล่าร์เช่นกัน คุณ ก็จะต้องส่งค าสั่ง BUY ค่าเงิน EUR/USD โดยดังกล่าวคือ คุณซื้อเงินยูโรซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับ ค่าเงินดอลล่าร์ ถ้าคุณเชื่อว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้นแข็งแกร่งและค่าเงินยูโรจะอ่อนแอเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐคุณต้องส่งคำสั่ง Sell EUR/USD นั่นคือ คุณคาดว่าค่าเงินยูโรจะร่วงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ USD/JPY ตัวอย่างนี้คือ ค่าเงิน ดอลล่าร์สหรัฐฯ เป็ น base currency และใช้เป็ นเกณฑ์ในการซื้อขายถ้าคุณคิดว่า รัฐบาลญี่ปุ่ นจะท าให้ค่าเงินเยน ตกต่ำเพื่อจะกระตุ้นอุตสาหกรรมส่งออก คุณต้องส่งออร์เดอร์Buy USD/JPY นั่นหมายถึงคุณซื้อเงินดอลล่าร์สหรัฐฯเพราะคาดว่ามันจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินญี่ปุ่นถ้าคุณเชื่อว่า นักลงทุนญี่ปุ่น กำลังดึงเงินออกจากตลาดการเงินสหรัฐฯ และแลกเงินดอลล่าร์สหรัฐฯทั้งหมดที่เขามีในมือกลับมาเป็นเงินเยน ซึ่งจะทำให้เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ได้รับความเสียหาย คุณต้องส่งคำสั่ง Sell USD/JPY โดยการทำแบบนี้หมายความว่าคุณคิดว่าค่าเงินสหรัฐฯ มีการอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน GBP/USD ตามตัวอย่างนี้ เงินปอนด์เป็น base currency และใช้เป็นเกณฑ์ในการวัดการซื้อหรือขายคู่เงิน

ถ้าคุณคิดว่าเศรษฐกิจของอังกฤษจะยังคงเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ คุณต้องส่งคำสั่ง BUY GBP/USD นั่นคือคุณต้องซื้อเงินปอนด์เพราะคิดว่ามันจะขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯถ้าคุณคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษจะชะงัก ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯอเมริกายังคงแข็งแกร่ง
ต่อเนื่อง คุณก็ต้องส่งคำสั่ง Sell GBP/USD หมายความว่าคุณต้องขายเงินปอนด์เพราะว่าคุณคิดว่า ราคามันจะลดลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ USD/CHF ตัวอย่างนี้ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ เป็น base currency และจะใช้เป็นเกณฑ์ในการซื้อขายถ้าคุณคิดว่า สวิสฯฟรังค์ราคาเกินมูลค่าจริงที่เป็น คุณต้องส่งคำสั่ง BUY USD/CHF โดยคุณซื้อเงินดอลล่าร์เพราะคุณคิดว่าเงินดอลล่าร์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพื่อเทียบกับสวิสฯฟรังค์ ณ ราคาปัจจุบันถ้าคุณเชื่อว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯจะเผชิญกับภาวะฟองสบู่แตก ซึ่งกระทบกับกับการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในภายภาคหน้า ซึ่งจะท าให้เงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง คุณต้องส่งคำสั่ง Sell USD/CHF เพราะว่าคุณคิดว่า ถ้าคุณมันจะลดค่าลงเมื่อเทียบกับสวิสฯฟรังค์จากราคาปัจจุบันเราไม่มีเงินพอที่จะซื้อ ค่าเงินมูลค่า 10,000 ยูโร เราจะยังเทรดได้อยู่ไหม?
คุณสามารถเทรดได้เพราะเราสามารถใช้ margin ได้ คาดว่า Margin หมายถึงการเทรดโดยการยืมเงินจากโบรกเกอร์มานั่นเอง ด้วยเหตุนี้คุณสามารถเปิดposition มูลค่า 100,000 เหรียญ หรือ 10,000 เหรียญ โดยเงินเพียง 50 เหรียญ หรือ 1,000 เหรียญ เท่านั้นเอง คุณสามารถถือครอง positionขนาดใหญ่ ด้วยเงินเพียงน้อยนิด และต้นทุนไม่แพงมากนักการเทรดแบบใช้มาร์จิ้น ในตลาดค่าเงินนี้ เราเรียกว่า Lot ซึ่งเราจะพูดถึงเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดในบทต่อ ๆ ไป สำหรับตอนนี้ ให้คิดแค่ว่า คำว่า lot คือปริมาณค่าเงินอย่างต่ำที่คุณสามารถซื้อได้ก็พอแล้ว เช่น


เมื่อคุณไปร้านขายของชำและอยากซื้อไข่ คุณไม่สามารถที่จะซื้อไข่เพียงใบเดียวได้ เพราะมันขายเป็นโหลหรือเราเรียกได้ว่า 1 lot ก็ได้ในบัญชี Mini 1 lot มูลค่าเท่ากับ 10,000 เหรียญ และในบัญชี standard นั้นมูลค่า 100,000 เหรียญ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณเปิดบัญชีประเภทไหนไว้อีกที ตัวอย่าง? คุณคิดว่าสัญญาณทางเทคนิคที่คุณใช้บอกว่า ค่าเงินปอนด์จะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์? คุณจะเปิด position 1 lot Lot คืออะไร   ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 คุณอยากซื้อเงินปอนด์ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ของมาร์จิ้น และรอให้ค่าเงินมันแข็งค่าขึ้น เมื่อคุณซื้อ GBP/USD 1 ลอท(100,000) ที่ราคา 1.5000
คุณกำลัง Buy 100,000 ปอนด์ซึ่งมีมูลค่า 150,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (เงินปอนด์ 100,000 หน่วยx1.50(อัตราแลกเปลี่ยนต่อเงินดอลล่าร์) ถ้ามาร์จิ๊นที่ต้องใช้เท่ากับ 1 % คุณต้องมีเงินเท่ากับ1,500 เหรียญ อย่างน้อยในบัญชีของคุณ(150,000 เหรียญX 1%) ตอนนี้คุณถือครอง position
เงินปอนด์ มูลค่า 100,000 ปอนด์ ซึ่งใช้เงินเพียงแค่ 1,500 เหรียญถ้าค่าเงินมันขึ้นไปอย่างที่คุณคิด และคุณอยากจะซื้อ? คุณจะปิ ด position ที่ราคา 1.5050 คุณจะได้ 50 pip หรือราว ๆ 500 เหรียญ Pip (ปิ๊ บ) คือจำนวนน้อยที่สุดที่ค่าเงินเคลื่อนไหว หรือ 1 จุดนั่นเอง)

การตัดสินใจของคุณ GBP/USD คุณซื้อเงินปอนด์มูลค่า 100,000 ในคู่เงิน GBP/USD ที่ราคา 1.5000 +100,000 -150,000หลังจากคุณซื้อได้ซักครู่ มันวิ่งไป 50 จุด ที่ราคา 1.5050 คุณเลยอยากจะขาย
-100,000 +150,500**คุณได้กำไร 500 เหรียญ 0 +500เมื่อคุณตัดสินใจที่จะปิด position กำไรขาดทุนก็จะถูกคำนวณ และมันก็จะเอาไปรวมกับบัญชีของคุณที่คุณเปิด
เราจะพูดถึงเรื่องมาร์จิ้นละเอียดกว่านี้ และหวังว่า คุณคงพอเข้าใจความหมายของมาร์จิ้นบ้างแล้วตอนนี้ Rollover นี่ไม่ใช่โปรโมชั่นต่ออายุเวลาในการโทรเหมือนบริษัทมือถือแน่นอน เพราะว่าเกี่ยวกับออร์เดอร์ที่เปิดข้ามคืนจนถึงเวลา “Cut-off time” ปกติจะราว ๆ ตีห้าบ้านเรา จะมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น ซึ่งเทรดเดอร์จะได้ หรือจะเสีย เท่าไหร่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนมาร์จิ้นที่คุณถืออยู่ในตลาด ถ้าคุณไม่ต้องการดอกเบี้ยนี้ คุณก็ต้องปิดคำสั่งของคุณก่อนจะถึงเวลา ตีห้าตั้งแต่ที่ทุกๆ การเทรดค่าเงินนั้นเกี่ยวพันกับการยืมเงินจากค่าเงินค่าหนึ่งแล้วนำไปซื้อค่าเงินอีกค่าหนึ่ง ซึ่งดอกเบี้ยนี้ก็เลยถูกชาร์จเข้าไปในการเทรดฟอร์เร็ก ดอกเบี้ยจะถูกจ่ายให้กับค่าเงินที่ถูกยืม และได้รับดอกเบี้ยจากค่าเงินที่ถูกซื้อ ถ้าเทรเดอร์กำลังซื้อค่าเงินค่าเงินหนึ่งที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยที่เราต้องเสียให้กับคนที่เรายืมมา จะทำให้ดอกเบี้ยมีผลเป็นบวก(ตัวอย่างเช่น USD/JPY) และเทรดเดอร์จะได้เงินค่าดอกเบี้ยส่วนต่างเข้าบัญชี คุณสามารถถามรายละเอียดของ Rollover กับโบรคเกอร์ของคุณและจำไว้ว่า โบรคเกอร์รายย่อยส่วนมากก็ปรับอัตรา Rollover ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกัน(เช่น Leverage, อัตรากู้ยืมจาก interbank) คุณต้องตรวจสอบข้อมูลเรื่อง Rollover ให้ละเอียด ทั้งด้าน
เครดิต และ เดบิต


8 เหตุผลที่ต้องเลือกฟอเร็กซ์:

    สภาพคล่องสูงและราคาดีที่สุด ในตลาดฟอเร็กซ์จะมีเทรดเดอร์ที่ต้องการซื้อและขายอยู่เสมอ ตลาดแห่งนี้ไม่เคยหลับ โบรกเกอร์ ECN สามารถให้ลูกค้าได้รับโควตราคาที่ดีที่สุดจากธนาคารขนาดใหญ่, ECN อื่น ๆ และผู้ให้บริการสภาพคล่องโบรกเกอร์จะได้รับประโยชน์จากการให้โควตราคาที่ดีที่สุดและมีสเปรดที่กระชับที่สุด

    ทำการเทรดตลอด 24/5 ได้จากทุกที่ ตลาดนี้มีการเทรดเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน, 5 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และโบรกเกอร์ของคุณจะให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเทรดในช่วงเวลาใด – เริ่มตั้งแต่ยุโรป, US และเอเชีย เมื่อช่วงเวลาการเทรดในไทม์โซนต่าง ๆ นั้นเหลื่อมล้ำกันอยู่ ช่วงเวลานั้นจะมีสภาพคล่องของฟอเร็กซ์มากที่สุด

    คุณสามารถทำการเทรดได้ด้วยเงินเพียงแค่ $100! จำนวนเงินฝากเริ่มต้นสำหรับฟอเร็กซ์นั้นจะต่ำกว่าในตลาดการเงินอื่น ๆ การเทรดด้วยเลเวอเรจ (หรือมาร์จิ้น) ในฟอเร็กซ์นั้นจะให้คุณสามารถใช้เงินทุนเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าจากจำนวนเงินที่คุณได้นำเข้าฝากและโบรกเกอร์ได้รับประโยชน์จากการที่คุณสามารถทำกำไรได้ ในโมเดล ECN คุณจะทำการเทรดกับผู้อื่นที่เข้าร่วมในตลาดไม่ใช่โบรกเกอร์ของคุณเอง ในการดำเนินการคำสั่ง ECN Aggregator จะค้นหาคำสั่งที่ตรงกันข้ามกับของคุณ (ราคาและปริมาณเดียวกัน) จากผู้อื่นที่อยู่ในตลาด โบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยสำหรับการโอนคำสั่งของคุณไปยัง ECN เพื่อทำการจับคู่ ด้วยโมเดลธุรกิจเช่นนี้โบรกเกอร์จะไม่ได้เทรดเพื่อสู้กับคุณและจะไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ ในการขาดทุนของคุณ แต่โบรกเกอร์จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อคุณทำการเทรดด้วยปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น

    ในฟอเร็กซ์คุณจะมีโอกาสที่จะสร้างกำไรได้เสมอ ตลาดหุ้นสามารถพังทะลายและทำให้หลักทรัพย์ที่คุณได้ถืออยู่มีมูลค่าที่ลดลงได้ แต่เมื่อเงินสกุลหนึ่งนั้นอ่อนค่าลงจะมีเงินอีกสกุลหนึ่งที่แข็งค่าขึ้นและคุณสามารถทำกำไรได้

    บทวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดนั้นง่ายต่อการติดตาม มีคู่สกุลเงินหลัก ๆ อยู่ 4 คู่ในฟอเร็กซ์ คุณสามารถเลือกเพียงแค่หนึ่งคู่สกุลเงินหรือหลายคู่สกุลเงินก็ได้ การติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดสำหรับคู่สกุลเงินทั้ง 4 คู่จะง่ายกว่าการติดตามหุ้นที่มีอยู่นับพันตัว

    การให้ความรู้และอบรมแก่ผู้ที่เริ่มต้นใหม่ โบรกเกอร์ของคุณมีบัญชีเดโม, คอร์สอบรมและเวิร์คช็อป, วิดีโอแนะนำ, ข่าวสาร, กราฟ และบทวิเคราะห์เกี่ยวกับตลาดให้คุณได้ติดตามและใช้ในการฝึกฝนทักษะในการเทรดของคุณได้

    การเทรดแบบอัตโนมัติ: คุณไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อติดตามกราฟและแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทั้งหมด ด้วย ตัวชี้วัด แบบอัตโนมัติและ สัญญาณ คุณจะได้รับการแจ้งทันทีที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหรือแนวโน้มมีการกลับตัว คุณยังสามารถใช้ประโยชน์จาก expert advisors ซึ่งคุณสามารถสร้างได้เองหรือใช้กลยุทธ์การเทรดของผู้อื่นที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล ซึ่ง Expert Advisor จะทำการเทรดแบบอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร